เกี่ยวกับ เข้าร่วมกับเรา

กลโกงบัญชีธนาคาร: จะป้องกันตัวเองได้อย่างไร?

Nov 23, 2020 - Koby Pearson

Super Healthy Cakes for all family

คุณจะต้องระวังตัวเสมอในเรื่องของการธนาคาร และเงินทุนของคุณ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องมานั่งพะวงสงสัย หรือหวาดระแวงไปซะหมดทุกเรื่อง แต่มันหมายถึงการมีความสงสัยที่ดีต่อบุคคล หรือบริษัทต่างๆโดยเฉพาะเรื่องเงิน

ไม่ว่าจะอออฟไลน์หรือออนไลน์ นักต้มตุ๋นก็สามารถ หาวิธีมาหลอกล่อคุณได้ตลอดเวลา มีการหลอกลวงที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆที่ฉันเจอ อยู่ทุกเดือน: มีคนโทรหาฉันและสอบถาม ข้อมูลบนบัตรของฉันเนื่องจากมี "กิจกรรมที่น่าสงสัย"

แต่นั่นก็ไม่ใช่การต้มตุ๋นเอาข้อมูลบัญชีธนาคาร เพียงรูปแบบเดียวที่แต่ละคนอาจได้เจอ ดังนั้นเราจึงอยากบอกคุณเรื่องกับดักยอดนิยม ที่นักต้มตุ๋นสร้างขึ้นโดยแสร้งทำเป็นองค์กรที่ น่าเชื่อถือและถูกต้องตามกฎหมาย

ข้อความและการโทรปลอมๆจาก "ธนาคารของคุณ"

นักต้มตุ๋นอาจใช้กลอุบายทุกรูปแบบเพื่อค้นหา ว่าคุณใช้ธนาคารใด พวกเขาอาจส่งอีเมล, ข้อความตัวอักษร, ข้อความโซเชียลมีเดียที่ดูเหมือนว่ามาจาก ธนาคารของคุณ ในข้อความธนาคารปลอมเหล่านี้นักต้มตุ๋นจะให้ ข้อเสนอจำนวนมากเพื่อแลกกับค่าธรรมเนียม เพียงครั้งเดียว, ขอให้คุณยืนยันข้อมูลธนาคาร เพื่อเก็บเป็นบันทึกข้อมูลของพวกเขา หรือรายงาน "กิจกรรมที่น่าสงสัย" รู้อะไรมั้ย? ทั้งหมดนั่นมันคือการหลอกลวง

ธนาคารของคุณจะไม่มีวันถามข้อมูลที่มี ความละเอียดอ่อนขนาดนั้นผ่านทางอีเมล หรือโทรศัพท์ หากมีคนอ้างว่ามาจากธนาคารของคุณและ ขอรายละเอียดธนาคารของคุณ มีโอกาสสูงมาก ที่พวกเขาจะพยายามขโมยเงินของคุณ ดังนั้นโปรดใช้ความระมัดระวังและติดต่อธนาคาร ของคุณเพื่อยืนยันว่าการโทรหรือข้อความนี้ ไม่ใช่ของปลอม

ตรวจสอบการชำระเงินเกิน

การต้มตุ๋นออนไลน์วิธีนี้เป็นรูปแบบที่โบราณสุดๆ คุณขายของออนไลน์แล้วมีคนมาซื้อ แต่เขาจ่ายคุณด้วยเช็คที่มีมูลค่าสูงกว่าราคาที่ขาย ผู้ซื้อจะขอให้คุณคืนส่วนต่างเป็นเงินสดกลับไป ให้พวกเขา คุณก็ทำตามที่เขาขอแล้วค่อยมารู้ทีหลังว่า เช็คนั่นเป็นของปลอม แต่มันก็สายไปแล้ว คุณโอนเงินไปแล้วแถมตอนนี้คุณยังโดนเก็บ ค่าธรรมเนียมการคืนเช็คเพิ่มไปอีก

หากคุณได้รับการชำระเงินที่ไม่ใช่เงินสด ให้โทรไปที่ธนาคารที่ออกเช็คนั้นเพื่อยืนยัน ความถูกต้องของเช็คดังกล่าว หลังจากที่ธนาคารยืนยันว่าการชำระเงินนั้น ถูกต้องเท่านั้น คุณค่อยโอนเงินกลับไป

ขี้นเงินให้กับเช็คของคนแปลกหน้า

คนแปลกหน้าจะเข้ามาหาคุณและเอาเช็คมาขอ ขึ้นเงินกับคุณ คนแปลกหน้านั้นจะหลอกว่า "ฉันไม่มีบัญชีที่ ธนาคารนี้" "และฉันอยากเอาเช็คนี้ขึ้นเงิน กับใครก็ได้"

กว่าคุณจะรู้ว่าเช็คนั่นไม่ดีก็ผ่านไปวันสองวันแล้ว เงินที่คุณดึงออกมาจ่ายให้กับคนแปลกหน้านั้น ก็หายวับไปกับตา จอมหลอกลวงนั้นก็หายตัวไป แถมคุณยัง ไม่เหลืออะไรนอกจากการได้แสดงความเมตตา หากมีใครเอาเช็คมาขึ้นเงินกับคุณ บอกให้เค้า ไปขึ้นเงินกับธนาคารไหนก็ได้ด้วยตัวเองได้เลย เสียค่าธรรมเนียมของการที่ไม่ใช่ลูกค้าของ ธนาคารนั้นแค่นิดเดียว พวกเขาไม่จำเป็นต้องให้คุณช่วยขึ้นเงินให้หรอก

หลอกลวงด้วยงาน

มีนักต้มตุ๋นจำนวนมากที่แสร้งทำเป็นว่าพวกเขา มีงานที่ทำจากที่บ้านได้ที่ถูกต้องตามกฏหมาย: เพื่อให้ได้ค่าคอมมิชชั่น คุณต้องโอนเงินเข้าและ ออกจากบัญชีธนาคารของคุณ มันฟังดูทั้งง่ายและรวดเร็วดี ใช่ปะ? มันก็คงจะง่ายอย่างจนกระทั่งรู้ตัวว่า "งาน" ที่ว่านั้นเป็นเพียงข้ออ้างในการเข้าถึง บัญชีธนาคารของคุณ

อย่ารับงานที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือ ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าไม่ว่า "นายจ้าง" จะให้เหตุผลอย่างไรก็ตาม

แถมโบนัสให้ละกัน เป็นเคล็ดลับเพิ่มเติมในการป้องกันตัวคุณเอง จากการฉ้อโกงบัญชีธนาคาร:

  1. อย่าหลงเชื่อทุกอีเมลหรือข้อความโทรศัพท์ ที่คุณได้รับ
  2. อย่าลดการป้องกันตัวเองลงเพราะคุณอาจเจอ เหตุที่ไม่คาดฝันได้ (เหมือนตอนนี้ที่เราเผชิญ กับการแพร่ระบาดของไวรัส)
  3. อย่าแชร์ข้อมูลธนาคารของคุณไปที่โซเชียลฯ
  4. อย่าแชร์ข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับตัวตนของคุณ
  5. อย่าด่วนตะครุบดีลออนไลน์ต่างๆเร็วเกินไป
  6. หมั่นระมัดระวังเมื่อซื้อหรือขายของทางออนไลน์

FAQ

ฉันจะป้องกันตัวเองจากการฉ้อโกง ทางออนไลน์ได้อย่างไร?

การฉ้อโกงบนอินเทอร์เน็ตนั้น มีมานานพอๆ กับเวิลด์ไวด์เว็บเองเลย โดยในแต่ละปีมิจฉาชีพจะพัฒนากลเม็ดและเทคนิคใหม่ๆ เพื่อหลอกลวงเหยื่อของพวกเขา เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไปติดกับดักออนไลน์ โปรดปฏิบัติตามกฎพื้นฐานเหล่านี้:

  • ตรวจสอบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบนโซเชียลมีเดีย และอย่าแบ่งปันข้อมูลกับคนที่คุณไม่รู้จัก
  • สร้างรหัสผ่านที่รัดกุมและแตกต่างกันไป สำหรับแต่ละเว็บไซต์ที่คุณใช้งาน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าคุณควรที่จะเปลี่ยนรหัสผ่านทั้งหมด ทุกสองสามเดือน
  • ระมัดระวังเสมอเมื่อใช้ Wi-Fi สาธารณะ คุณสามารถใช้สำหรับการท่องเว็บทั่วไปได้ แต่ห้ามใช้เพื่อทำการซื้อของ หรือทำธุรกรรมทางธนาคารเป็นอันขาด
  •  อย่าเปิดข้อความที่น่าสงสัย, หน้าต่างที่เด้งขึ้นมา, ลิงก์ หรือไฟล์ที่แนบมาในอีเมล
  • อย่าโอนเงินหรือให้รายละเอียดบัตรเครดิต, รายละเอียดของบัญชีออนไลน์ หรือสำเนาเอกสารส่วนตัว แก่บุคคลที่คุณไม่รู้จักหรือไว้วางใจ
  •  ระวังคำขอการชำระเงินที่ผิดปกติ นักต้มตุ๋นเหล่านี้มักจะขอให้คุณใช้วิธีการชำระเงินที่ผิดปกติ รวมไปถึงบัตรของขวัญ หรือสกุลเงินเสมือนจริงอย่างเช่น Bitcoin

จะทำอย่างไรหากฉันตกเป็นเหยื่อ ของการฉ้อโกงทางออนไลน์

ในบางครั้งผู้คนเลือกที่จะไม่รายงานการฉ้อโกง เนื่องจากพวกเขารู้สึกอับอาย ที่ตกเป็นเหยื่อจากการต้มตุ๋น โปรดจำไว้ว่าการฉ้อโกงเป็นอาชญากรรม และมิจฉาชีพจะหาวิธีการใหม่ๆ ในการหลอกลวงผู้คนอย่างต่อเนื่อง ใคร ๆ ก็สามารถตกเป็นเหยื่อได้ ดังนั้นคุณต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันสิ่งนี้

สิ่งแรกที่คุณควรทำหากคุณตกเป็นเหยื่อการฉ้อโกง คือติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือโทรไปที่หมายเลขฉุกเฉินเพื่อรับคำแนะนำ ติดต่อธนาคารของคุณก่อนหากมันมีความเกี่ยวข้องกับ บัตรเครดิต, ธนาคารออนไลน์ หรือเช็ค

หากเงินของคุณถูกโอนผ่านระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (PayPal, WebPay ฯลฯ) คุณควรติดต่อฝ่ายบริการสนับสนุนของระบบนั้นๆ ฝ่ายบริการสนับสนุนสามารถบล็อกบัญชีของมิจฉาชีพ เพื่อป้องกันการโจรกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้

ฉันจะได้รับเงินคืนไหม?

หากมิจฉาชีพขโมยรายละเอียดบัตรของคุณ คุณจะต้องโทรติดต่อฝ่ายบริการสนับสนุนของธนาคาร และบล็อกบัตรของคุณซะ หลังจากนั้นให้ไปที่ธนาคาร และส่งคำร้องขอเพื่อยกเลิกการโอนเงิน การตรวจสอบคำร้องขอของคุณอาจใช้เวลาถึง 30 วัน อย่าลืมนำหลักฐานว่าคุณถูกหลอก ไปยื่นที่ธนาคารและสถานีตำรวจ

ตามสถิติมีเพียง 23 เปอร์เซ็นต์

  • ข้อความถูกส่งสำเร็จ
  • ข้อความไม่ถูกส่ง

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

เรามีการใช้คุกกี้

การเยี่ยมชมเว็บไซต์ FraudHunter 

แสดงว่าคุณยอมรับให้เราประมวลผล

ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยใช้โปรแกรมเมตริก รายละเอียดเพิ่มเติม

ข่าวด่วน: WikiFX: ชื่อเสียงของโบรกเกอร์มีราคาเท่าไร?

อ่านเพิ่มเติม